กิจกรรมเล็ก ๆ กับความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
กิจกรรมเล็กๆ กับความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
ครูป๊อป
เช้าวันศุกร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เป็นเช้าวันศุกร์แรกที่วิทยาลัย ฯ กำหนดให้มีกิจกรรมตาม “โครงการตักบาตรพระ รับธรรมยามเช้า” เช้าวันนั้นมีคณะครู นักเรียนนักศึกษาซึ่งเป็นผู้แทนห้องบางห้องได้มาร่วมสะสมบุญ สะสมคะแนนประมาณ ๖๐ คน นี่..ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์คงตกอยู่ประมาณ ๑.๗ เปอร์เซ็นต์จากจำนวนสมาชิกของวิทยาลัย ฯ ทั้งหมดประมาณ ๓,๕๐๐ คน มอง..มองดูคงสรุปได้ว่า “คนมาทำบุญกัน..น้อยจัง” แต่เรื่องของบุญจะบังคับกันได้อย่างไร บุญย่อมต้องมี “เจตนา” เป็นที่ตั้ง ใครมีจิตศรัทธา มีความพร้อมโดยไม่ต้องมีสิ่งใดมาล่อหลอก เป็นได้กุศลแน่ แต่สำหรับนักเรียนนักศึกษาถ้าจุดตั้งต้นไม่ใช่คะแนน กิจกรรมนี้คงวังเวงน่าดู และเมื่อเข้าห้องเรียนครูได้ให้ผู้แทนที่เข้าร่วมกิจกรรมเล่าถึงบรรยากาศ ทั้งเพื่อเป็นการฝึกพูด และยังเป็นการสอนให้ได้รู้จักน้อมบุญ น้อมกุศลให้กับเพื่อน ๆ ให้ได้ร่วมกันอนุโมทนาบุญทั่วทุกคนแล้ว ครูยังได้สัมภาษณ์ผู้แทนห้องว่า “กิจกรรมการทำบุญตักบาตรมีคนมาร่วมกิจกรรมมากหรือน้อย” สิ่งหนึ่งที่ทำให้ต้องแปลกใจ คือนักเรียนนักศึกษาส่วนมากต่างพูดคล้าย ๆ กันว่า “คนมาทำบุญกันมากครับ..ค่ะ” ๑.๗ เปอร์เซ็นต์นี่หรือ คือ..มาก อะไรนะ..ที่เป็นตัวที่ทำให้พวกเขาคิดเช่นนั้น
“บุญ” แปลตามสารานุกรมพระพุทธศาสนา แปลว่า เครื่องชำระสันดาน ชำระให้สะอาดจากความโสโครกซึ่งเป็นอุปนิสัยที่ติดมาแต่กำเนิด ความโสโครกเหล่านี้คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เจ้าตัวร้าย ๓ ตัวนี้ปรากฎตัวออกมาเมื่อไร เราจะมีความรู้สึกคับแคบ เศร้าหมอง รู้สึกอึดอัดอย่างไรชอบกล การทำบุญจึงเป็นการชำระล้างเจ้าวายร้ายออกไปจากจิตใจ การตักบาตรพระจัดเป็นส่วนหนึ่งของการทำบุญที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ข้อทานมัย คือ ทำบุญด้วยการให้ทาน ชาวพุทธถือว่า การทำบุญตักบาตรพระเป็นการสนับสนุนให้พระสงฆ์ท่านได้ดำรงชีวิตมีกำลังกาย กำลังใจศึกษา ฝึกฝนตนเองเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป ส่วนผู้ทำบุญตักบาตรก็จะได้มีโอกาสลดละความตระหนี่ ลดละความโลภ การทำบุญที่ถูกต้องจึงมิใช่อยู่ที่ความปรารถนาอยากจะได้โน้น อยากจะได้นี่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงเป็นการทำบุญเชิงธุรกิจ มีการลงทุน มีผลกำไร และเมื่อไหร่คิดถึงกำไร หรือผลตอบแทนความโลภก็มิได้หายออกไปจากจิตใจ การชำระสันดานให้สะอาดก็คงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะใจมัวแต่กะเกณฑ์ วิตกกังวลถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ แต่ถ้าเข้าใจเรื่องบุญว่าเป็น “การให้” ฝ่ามือย่อมหงายออก ก่อนทำ ขณะทำ หลังทำบุญใจไม่ขัดขืน จิตใจเบาสบาย พร้อมที่จะปล่อยเจ้าความโลภ ความตระหนี่ ความโสโครกออกไป บุญที่ทำย่อมมีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดปิติ เกิดความสุข ใจเปิดกว้างมองสิ่งใดด้วยจิตใจเบาสบายนี่แหละที่เรียกว่า “ผลแห่งบุญ” และถ้าได้ฝึกฝนบ่อย ๆ ผลแห่งบุญนี้ย่อมชำระสันดานโสโครกออกไปได้เอง
เมื่อได้รู้ ได้เข้าใจถึงจุดนี้จึงไม่แปลกใจอีกต่อไปว่า ทำไมจำนวนคนที่มาทำบุญน้อย แต่นักเรียนนักศึกษาเหล่านั้นกลับมีความรู้สึกว่ามีคนมาก อาจเป็นใจที่เปิดกว้าง มองทุกสิ่งด้วยใจที่เบา โปร่ง และสบาย ถึงแม้ว่าแรกจะถูกกำหนดให้มาทำบุญ แต่เมื่อได้มาร่วมกิจกรรมเล็ก ๆ กิจกรรมอันเป็นเครื่องชำระสันดาน เขาเหล่านั้นกลับมีความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และได้ก้าวข้ามคำว่า “คะแนน” ไปสู่การสะสมบุญเรียบร้อยแล้ว