'จาตุรนต์' ปลดล็อคไร้ใบประกอบวิชาชีพ-เป็นครูได้
'จาตุรนต์' ปลดล็อคไร้ใบประกอบวิชาชีพ-เป็นครูได้
'จาตุรนต์' ปลดล็อคไร้ใบประกอบวิชาชีพ มอบ ก.ค.ศ.แก้กฎหมายเพื่อปลดล็อคปัญหา เปิดทางให้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพมาเป็นครู ระบุไม่อยากให้ไปปิดช่องทางที่จะให้
ผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ เข้ามาเป็นครู
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการมีปัญหาการขาดแคลนครู แต่ไม่สามารถที่จะจ้างคนเก่งที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพเฉพาะด้าน อาทิ วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต วิทยาศาสตร์บัณฑิต มาเป็นครูได้ เพราะติดปัญหาในเรื่องของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ซึ่งไม่ใช่จะมีปัญหาเฉพาะในสถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เท่านั้น แต่ในส่วนของโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็มีปัญหาในเรื่องการจ้างครูต่างประเทศมาสอน เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งตนมองว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นระบบที่ปิดเกินไป ทำให้เป็นอุปสรรคไม่สามารถดึงคนที่มีความรู้ในวิชาชีพต่างๆมาเป็นครูได้ ทั้งที่คนเหล่านั้นสามารถที่จะเข้ามาสอนเพื่อทดแทนครูที่เรากำลังขาดแคลนได้ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปตั้งวงพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาในภาพรวม หากต้องแก้กฎหมายเพื่อปลดล็อคปัญหาเพื่อเปิดทางให้ผู้ที่มีความรู้ความ เชี่ยวชาญในวิชาชีพต่างๆเข้ามาเป็นครูได้ก็สามารถทำได้ เพราะตนไม่อยากให้ไปปิดช่องทางที่จะให้ผู้มีความรู้และมีประสบการณ์ หรือผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชาชีพนั้นๆเข้ามาเป็นครู
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ทางครุสภาเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 44 ของพ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่กำหนดไว้ว่าผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ คุณสมบัติ มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าว ไม่มีความยืดหยุ่น ทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาเป็นครูได้
ดังนั้นคุรสภาจึงเสนอทางออกโดยการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราดังกล่าว และกำหนดให้กรรมการคุรุสภาสามารถยกเว้นเงื่อนไขข้อนี้ได้ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมตรงนี้ไม่ได้เป็นการแก้ทั้งมาตรา จึงสามรถเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา และเข้าสภาได้ทันที 3 สาระ เพราะถือว่าไม่ผิดเจตนารมณ์ในเรื่องใบประกอบวิชาชีพครู ขณะเดียวกันยังช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูในวิชาชีพเฉพาะได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สาขาวิศวกรรมศาสตร์ นาฏศิลป์ ฯลฯ และไม่ได้ช่วยปลดล็อคเฉพาะปัญหาขาดแคลนครูของสอศ. เท่านั้น แต่ยังทำให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอชน (สช.) สามารถจ้างผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาสอนได้มากขึ้น